
เหตุระเบิดซึ่งเกิดขึ้นที่เรือนจำอินเส่งเมื่อวานนี้ ทำให้มีคนตายขั้นต่ำ 8 ราย เป็นข้าราชการของคุก 3 นาย ข้าราชการ 5 ราย แล้วก็มีคนที่บาดเจ็บอีก 18 คน ผลของการสืบสาวพื้นฐานระบุว่าการระเบิดที่เกิดขึ้นในคุกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศภรรยานมาคราวนี้ มิได้เกิดขึ้นเนื่องจากว่า “อุบัติเหตุ”
ผลของการสืบสาวพื้นฐานของทางการภรรยานมากล่าวว่า เจอวัตถุระเบิดปริมาณอย่างต่ำ 3 ลูกที่ถูกจัดตั้งไว้ในกล่องพัสดุภัณฑ์ปริมาณ 2 กล่อง ที่ถูกส่งมายังคลังเก็บของไปรษณีย์ของคุกอินเส่ง ระเบิด 3 ลูกในกล่องพัสดุภัณฑ์ 2 ใบ ได้ระเบิดขึ้นไล่เลี่ยกันในเวลาราวๆ 09.40 น. ของยามเช้าวันพุธ ทำให้ข้าราชการฝ่ายจัดการพัสดุภัณฑ์ของคุก ข้าราชการรักษาความปลอดภัยที่เข้าคุกแล้วก็ผู้คุมของคุกเสียชีวิตรวม 3 นาย แรงระเบิดยังส่งผลให้มีข้าราชการ ซึ่งจำนวนมากเป็นพี่น้องที่เดินทางมาเลิศผู้ต้องขังเสียชีวิตอีก 5 ราย หนึ่งในเป็นเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ข้อมูลที่ได้รับมาจากผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งที่อยู่ในเรื่องราวและก็รอดตายมาได้กล่าวว่า ขณะก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิดนั้น ข้าราชการของคุกกำลังจัดแถวพัสดุภัณฑ์ แล้วก็มีพี่น้องๆของบรรดาผู้ต้องขังยืนต่อแถวคอยส่งพัสดุภัณฑ์อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ต่อจากนั้นระเบิดลูกแรกในกล่องพัสดุภัณฑ์ใบอันดับที่หนึ่งได้ระเบิดขึ้น ต่อจากนั้นระเบิดอีก 2 ลูกที่อยู่ในกล่องพัสดุภัณฑ์อีกใบก็ระเบิดตาม ข้างหลังสิ้นเสียงระเบิด มีกรุ๊ปติดอาวุธไม่รู้จักข้างเริ่มกราดยิงเข้าใส่คุกอินเส่งนานหลายนาที ส่งผลให้ข้าราชการของคุกอินเส่งแล้วก็ทหารภรรยานมาหวานใจษาความปลอดภัยอยู่ข้างนอก ยิงปืนตอบโต้กลับ
เรื่องที่เกิดขึ้น นับว่าเป็นเหตุสะเทือนใจรวมทั้งการสังหารครั้งที่ร้ายแรงที่สุดของคุกอินเส่งในรอบ 11 ปี นับจากเรื่องที่ผู้ต้องขังในคุกที่นี้ก่อโกลาหลเมื่อปี 2011 ข้างหลังเกิดเหตุ มีการรับรองว่ากล่องพัสดุภัณฑ์ที่มีระเบิดซุกซ่อนมาด้วยนั้น มีการจ่าหน้าจดหมายถึงผู้ต้องขัง 2 คน ที่ถูกกักขังอยู่ในคุกที่นี้ และก็ในเวลานี้ได้มีการนำตัวผู้ต้องขังทั้งคู่ไปสอบปากคำแล้ว ดังนี้ 8 ชั่วโมงข้างหลังเกิดเหตุระเบิด กรุ๊ปติดอาวุธที่เรียกตัวเองว่า หน่วยงานหน้าที่พิเศษที่ประเทศพม่า (the Special Task Agency of Burma หรือ: STA) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบว่าการจู่โจมคุกอินเส่งด้วยระเบิดที่ซุกซ่อนอยู่ในพัสดุไปรษณีย์คราวนี้เป็นฝีมือของกรุ๊ปตนเอง กรุ๊ปติดอาวุธ STA กล่าวถึงว่า การจู่โจมคราวนี้มีเป้าหมายเพื่อฆ่าผู้บังคับบัญชาของคุกอินเส่ง ที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังการกดขี่รวมทั้งทรมาทรกรรมผู้ต้องขังข้างในคุกที่นี้ รวมทั้งเพื่อเป็นการล้างแค้นต่อพล.อ.อาวุโส ไม่น อ่อง หล่าย หัวหน้าคณะรัฐประหารภรรยานมา ที่ข่มขี่แล้วก็ปราบพลเมืองผู้เห็นต่างอย่างหนัก นับจากที่ตัวเขาก้าวขึ้นมีอำนาจ ข้างหลังการลบล้างรัฐบาลข้าราชการ ที่นำโดยนางอองซานซูจี ช่วงวันที่ 1 ก.พ.ปี 2021
อย่างไรก็แล้วแต่ สถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์เอ็มอาร์โทรทัศน์ (MRTV) ของรัฐบาลทหารภรรยานมา ออกคำแถลงติเตียนผู้อยู่เบื้องหลังเหตุจู่โจมที่เกิดขึ้น โดยกล่าวว่า เป็นฝีมือของผู้ก่อเหตุร้ายแรงที่ไม่ปรารถนาดีต่อชาติรวมทั้งพลเมือง แม้กระนั้นไม่ยอมรับที่จะอ้างถึงชื่อของกรุ๊ป STA โดยตรง สถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์ MRTV ยังรายงานเหตุว่า ข้าราชการเจอระเบิดลูกที่ 4 อยู่ภายในเขตพื้นที่ใกล้เคียง โดยเป็นระเบิดแบบที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นเอง เหมือนกันกับระเบิดอีกทั้งสามลูกแรก แม้กระนั้นข้าราชการสามารถเก็บกู้และก็ทำลายได้ทัน ก่อนที่จะระเบิดลูกที่ 4 นี้จะดำเนินการคุกอินเส่ง มีความหมายเช่นไร? คุกอินเส่ง ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของเขตมะยังกอน (Mayangon) ในกรุงปิ้งกุ้ง ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่ารวมทั้งศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศภรรยานมา มานาน แผนกผู้ดูแลอาณานิคมจากอังกฤษเป็นผู้ผลิตคุกอินเส่งที่นี้ ก่อนเปิดใช้งานตั้งแต่เมื่อปี คริสต์ศักราช1887 หรือเมื่อ 135 ปีกลาย เพื่อใช้จองจำชาวประเทศพม่าในอาณานิคมที่กระทำผิดกฏหมาย รวมทั้งชาวประเทศพม่าที่ต้านการปกครองของอังกฤษในยุคนั้น
คุกที่นี้เป็นเครื่องหมายของระบบการปกครองที่ข่มขี่รวมทั้งชั่วร้ายต่อเนื่องกันมาตั้งแต่สมัยที่ประเทศพม่าตกอยู่ภายใต้การยึดครอบครองของอังกฤษ ตลอดมาจนกระทั่งการปกครองในสมัยรัฐบาลทหารหลายชุดของภรรยานมาภายหลังได้รับเอกราชแล้ว ตั้งแต่แมื่อปี 1988 เป็นต้นมา รัฐบาลทหารประเทศพม่าหลายชุดที่หมุนเวียนกันขึ้นมีอำนาจต่างใช้คุกที่นี้เป็นสถานที่หลักสำหรับกักขังรวมทั้งใช้เป็นสถานที่สำหรับในการทรมาทรกรรมผู้ต้องขังแล้วก็กรุ๊ปผู้เห็นต่างทางด้านการเมือง จากข้อมูลพบว่า ปริมาณผู้ต้องขังที่ถูกขังอยู่ในคุกอินเส่งที่นี้มีมากยิ่งกว่า 12,400 คนแล้วก็มั่นใจว่ามากยิ่งกว่า 4,300 คนภายในปริมาณนี้เป็นผู้ต้องขังด้านการเมืองที่โดนจับจับจองจำ คราวหลังการปฏิวัติของ พล.อ.อาวุโส ไม่น อ่อง หล่าย เมื่อปีที่ผ่านมา นับจากที่พล.อ.อาวุโสไม่น อ่อง หล่าย กระทำก่อรัฐประหารโค่นอำนาจรัฐบาลข้าราชการของนางอองซานซูจีเมื่อ 1 ก.พ. 2021 ก็ได้มีการต่อต้านต้านทานการปฏิวัติกระจัดกระจายไปในหลายเมืองทั่วภรรยานมา ตอนที่คณะรัฐประหารก็ได้ใช้กรรมวิธีร้ายแรงสำหรับเพื่อการปราบคนคัดค้านอย่างสม่ำเสมอ กรุ๊ปคนคัดค้านหลายชิ้น ตกลงใจหนีเข้าป่าไปร่วมกับกรุ๊ปติดอาวุธของชนหมู่น้อยเชื้อชาติต่างๆเพื่อจับอาวุธต่อสู้กับรัฐบาลทหาร หรือไม่ก็รวมตัวกันตั้งขึ้นกองกำลังติดอาวุธภาคราษฎร
จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ จำนวนคนเสียชีวิตจากการเช็ดกรัฐบาลทหารฆ่าข้างหลังการยึดอำนาจเมื่อ 1 เดือนกุมภาพันธ์ มีปริมาณขั้นต่ำ 3,900 ราย รวมทั้งมีประชากรอีกกว่า 15,000 คน โดนจับจับจองจำอยู่ตามคุกต่างๆทั้งประเทศ รวมทั้งที่คุกอินเส่งนี้ เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ไม่ใช่เหตุนองเลือดหนแรกในคุกอินเส่ง
– ทีแรก ย้อนกลับไปเมื่อปี 1991 ผู้ต้องขังปริมาณหลายพันคนภายในคุกที่นี้รวมตัวกันไม่กินอาหารต่อต้าน เพื่อเรียกร้องให้ทางแม่น้ำนจำแก้ไขการดูแลรักษาสุขภาพของผู้ต้องขัง แล้วก็เรียกร้องสิทธิให้บรรดาผู้ต้องขังได้อ่านหนังสือพิมพ์ แต่ว่าผู้ต้องขังกลุ่มนี้กลับโดนจับและก็นำตัวไปทรมาทรกรรม ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยจำนวนคนตายที่กระจ่างแจ้งจากเรื่องคราวนี้
– ครั้งลำดับที่สอง ตอนวันที่ 3 เดือนพฤษภาคม ปี 2008 ข้าราชการคุกอินเส่งก่อเหตุใช้อาวุธปืนฆ่าหมู่ผู้ต้องขังมากยิ่งกว่า 36 ศพ รวมทั้งผู้ต้องขังอีก 4 รายถูกนำตัวไปทรมาทรกรรมจนตาย โดยกล่าวถึงว่าจำเป็นต้องปกป้องตัวเองจากการก่ออลหม่านของผู้ต้องขัง โดยที่จนถึงทุกวันนี้ ยังไม่อาจจะฟ้องร้องคดีใดๆก็ตามกับข้าราชการคุกอินเส่งในเหตุนี้ได้
-ครั้งลำดับที่สาม วันที่ 24 เดือนพฤษภาคม 2011 กรุ๊ปผู้ต้องขังทางด้านการเมืองปริมาณกว่า 30 คนรวมกลุ่มไม่กินอาหารคัดค้าน เพื่อเรียกร้องให้มีการปรับแก้ภาวะการดำรงชีวิตของผู้ต้องขังในคุกให้ดียิ่งขึ้น แม้กระนั้นการต่อต้านของพวกเขาไม่ประสบผลสำเร็จและก็ถูกสลาย ภายหลังจากแกนนำการคัดค้านโดนจับแยกไป “ขังคนเดียว”
– ครั้งที่ 4 วันที่ 19 เดือนตุลาคม 2022 หรือเมื่อวานนี้ กับเหตุจู่โจมจากระเบิดที่ซุกซ่อนมาในกล่องพัสดุภัณฑ์ที่จ่าหน้าจดหมายถึงผู้ต้องขังในคุกอินเส่ง ทำให้มีคนตายอย่างต่ำ 8 รายและก็เจ็บอีก 18 คน